หมวดหมู่น่าสนใจ

บทความล่าสุด

  • thumbnail

    ชุดพระเหรียญโชคลาภ ปี2558

    ชุดพระเหรียญโชคลาภ ปี2558, พระโชคลาภปี58, บูชาได้โชค ได้ลาภ ปี2558, วัดพลับ, คณะ5

  • thumbnail

    เหรียญพระสีวลี

    เหรียญพระสีวลี, เหรียญโลหะพระสีวลี, คณะ5 วัดราชสิทธาราม

  • thumbnail

    งานพุทธาภิเษก พระพุทธเมตตา วันที่ 14 ธันวาคม 2557

    งานพุทธาภิเษกพระพุทธเมตตา วันที่ 14 ธันวาคม 2557 ณ.คณะ5วัดราชสิทธาราม โดยพ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ จ.ปัตตานี

  • thumbnail

    งานพุทธาภิเษก เหรียญพระสีวลี คณะ 5 วัดราชสิทธาราม

    งานพุทธาภิเษกเหรียญพระสีวลี วันที่ 29 พฤษจิกายน 2557 ณ.คณะ5วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ)

  • thumbnail

    เลือกของทำบุญอย่างไรให้เหมาะสม

    การทำบุญ เป็นสิ่งที่อยู่คู่คนไทยมานานโดยเฉพาะช่วงเทศกาลต่างๆ เช่น วันพระ วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา แต่รู้หรือไม่ว่าสิ่งที่ทำบุญไปนั้นได้ใช้ประโยชน์มากน

  • พระวินัยรักขิต หลวงปู่ฮั่น

    thumbnail

    เขียนเมื่อ 2014-09-28 05:51:21

    1320 ครั้ง


    พระวินัยรักขิต ( หลวงปู่ฮั่น )
     


     

              พระวินัยรักขิต มีนามเดิมว่า ฮั่น เกิดเมื่อประมาณปีพระพุทธศักราช ๒๒๘๔ แขวงกรุงเก่า สมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ท่านมีเชื้อสายจีน พระอาจารย์สุก มาพบท่านถือศีลนุ่งขาว ห่มขาวอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ในแขวงกรุงเก่า ท่านศึกษาธรรมปฏิบัติอยู่ระยะหนึ่ง จึงมาขอบรรพชา-อุปสมบทกับพระอาจารย์สุก เหตุที่ท่านไม่ได้อุปสมบทมาแต่อายุ ๒๐–๒๑ นั้นเพราะ ครอบของท่านยังมีเหตุยุ่งยากอยู่ จึงยังไม่ได้ทำการอุปสมบทในเวลานั้น ต่อมาท่านได้ บรรพชา-อุปสมบท ณ วัดท่าหอย โดยมีพระอาจารย์สุก เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์สี พระอาจารย์ศุก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระ อนุศาสนาจารย์อุปสมบทแล้ว ศึกษาพระกรรมฐานมัชฌิมา กับพระอาจารย์สุก ภายในระยะเวลา๖ เดือนเศษท่านก็สามารถศึกษาจบทั้งสมถะ-วิปัสสนามัชฌิมา แบบลำดับ เวลากลางคืนท่านบำเพ็ญกรรมฐาน กลางวันท่านศึกษาเล่าเรียนพระบาลีคัมภีร์มูลกัจจายน์ หรือคัมภีร์พระบาลีใหญ่ กับพระอาจารย์สุก เมื่อท่านศึกษาเบื้องต้นพระบาลีมูลกัจจายน์จบที่วัดท่าหอยแล้ว

              ต่อมาพระอาจารย์สุก จึงฝากท่าน ให้เข้ามาศึกษาเล่าเรียนพระบาลีมูลกัจจายน์ชั้นสูง ต่อที่กรุงธนบุรี กับพระศรีสมโพธิ์ (ศุก) ณ วัดสลัก (มหาธาตุ) ต่อมาท่านสามารถสอบผ่านคณะกรรมการสามกองได้ ท่านจึงได้เป็นเปรียญ ท่านเป็นเปรียญแล้ว จึงเดินทางกลับวัดท่าหอย ช่วยพระอาจารย์สุก เผยแผ่พระศาสนาต่อไปสมัยที่ท่านจบสมถะ-วิปัสสนามัชฌิมา แบบลำดับแล้ว ไม่นานท่านก็ได้บรรลุธรรมตามลำดับจนถึง อนาคามีมรรค อนาคามีผล ได้มรรค๓ ผล๓ อภิญญาหก เป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา เป็นกำลังให้พระอาจารย์สุก ทั้งในด้านวิปัสสนาธุระ และคันถะธุระ 

              ต่อมาพระอาจารย์สุก ได้ประทานไม้เท้าเบิกไพร ไผ่ยอดตาล อันเป็นของบูรพาจารย์สืบทอดกันต่อๆมา พระอาจารย์สุก พระองค์ท่านได้มาจาก ถ้ำในป่าลึก ดงพญาเย็น แขวงอุตรดิตถ์ พระองค์ท่าน ทรงประทานให้พระอาจารย์ฮั้น เอาไว้ใช้เบิกไพรแผ่เมตตา เวลาออกสัญจรจาริกธุดงค์ ไปตามป่าเขา

            ปีพระพุทธศักราช ๒๓๒๖ ณ วันพฤหัสบดี ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๘ จุลศักราช ๑๑๔๕ ปีเถาะ ปีพระพุทธศักราช ๒๓๒๖ เป็นพระสงฆ์อนุจรติดตาม พระอาจารย์สุก มากรุงเทพฯ สถิตวัดพลับ กาลต่อมาได้เป็น พระสมุห์ ถานานุกรมทรงเครื่อง ของพระญาณสังวรเถร (สุก) ทำหน้าที่บอกหนังสือพระบาลีมูลกัจจายน์ บอกพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับด้วยท่านเป็นพระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายคันถะธุระ บอกพระปริยัติธรรมบาลี พระองค์แรกของวัดราชสิทธาราม(พลับ) ท่านเป็นพระอาจารย์ บอกพระบาลีมูลกัจจายน์เบื้องต้นของพระเทพโมลี (กลิ่น) ด้วย 

              สมัยแรกที่ ท่านสถิตวัดพลับนั้น หนังสือพระบาลีมูลกัจจายน์ไม่พอให้พระภิกษุศึกษากัน พระญาณสังวรเถร (สุก) พระปลัดชิต พระสมุห์ฮั่น เปรียญ ต้องช่วยกันจารหนังสือพระบาลีมูลกัจจายน์ กัณฑ์ต้นๆเป็นหลายผูก ซึ่งสมัยนั้นต้องไปขอยืม พระคัมภีร์มูลกัจจายน์ จากพระสังฆราช (สี) วัดบางหว้าใหญ่ (วัดระฆัง) และจากพระพนรัต(สุก) สำนักวัดสลัก (วัดมหาธาตุ) มาช่วยกันจารคัดลอกขึ้นเป็นหลายฉบับ จารเอาไว้สำหรับให้พระภิกษุได้ใช้ศึกษากัน ที่วัดพลับการจารครั้งนั้นของพระสมุห์ฮั่น เปรียญ เป็นการจารเพื่อทบทวนบทเรียนพระบาลีไปด้วยในตัว แต่การศึกษาพระบาลีขั้นสูง ทางสำนักวัดพลับ จะส่งพระภิกษุสงฆ์ไปศึกษาต่อที่ สำนักพระสังฆราช วัดบางหว้าใหญ่บ้าง สำนักพระพนรัต (ศุก) วัดสลักบ้าง(วัดมหาธาตุ) ซึ่งเป็นศูนย์กลางสำนักเรียนพระบาลีสำนักใหญ่ สมัยต้นรัตนโกสินทร์

            พระพุทธศักราช ๒๓๒๗–๒๓๒๘ พระสมุห์ฮั่น ได้เลื่อนเป็นถานานุกรมที่ พระครูสมุห์ฮั่น และได้เข้าร่วมผูกพัทธสีมา วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และช่วยพระญาณสังวรเถรพิมพ์พระอรหัง ด้วยจำนวนหนึ่งพระพุทธศักราช ๒๓๓๑ ในรัชกาลที่๑ พระครูสมุห์ฮั่น เปรียญ ถานานุกรมทรงเครื่อง เข้าร่วมกับพระภิกษุสงฆ์ ทรงพระปริยัติธรรม องค์หนึ่งใน ๒๑๘ รูป ทำสังคายนาพระไตรปิฎก

              พระพุทธศักราช ๒๓๓๗ พระครูสมุห์ฮั่น เปรียญ ได้รับพระราชทานสมณะศักดิ์เป็นพระราชาคณะที่ พระวินัยรักขิต หรือ ตำแหน่งพระอุบาลี เดิม พระครูสมุห์ฮั่นเปรียญเป็น พระวินัยรักขิต องค์ที่สองของกรุง รัตนโกสินทร์ ต่อจากพระวินัยรักขิต (มี) วัดราชบูรณะ

              พระพุทธศักราช ๒๓๔๙ ได้เข้าร่วมเป็นคณะสงฆ์ ๒๘ รูป ถวายสัจจะสาบานถวายพระพร ยกเจ้ากรมหลวงอิศรสุนทร ขึ้นเป็นกรมพระราชวังบวร สถานมงคล (รัชกาลที่ ๒)

              พระพุทธศักราช ๒๓๖๒ ประมาณปลายปี เป็นกำลังสำคัญในการสวดพระปริตรัตนสูตร ปราบอหิวาตกโรค หรือโรคห่าลงเมืองในรัชกาลที่ ๒ 

              พระพุทธศักราช ๒๓๖๔ เป็นคณะกรรมการเข้าร่วมทำการสังคายนาพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ในสมัยรัชกาลที่ ๒

              พระพุทธศักราช ๒๓๖๕ เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการฝ่ายสงฆ์ หล่อพระรูป สมเด็จพระสังฆราช ไก่เถื่อน ณ. วัดราชสิทธาราม

              พระพุทธศักราช ๒๓๖๗ อาพาธ และมรณะภาพลงด้วยโรคชรา เมื่อสิริรวมอายุท่านได้ ๘๓ ปีเศษ ทางคณะสงฆ์วัดพลับ เก็บพระสรีระสังขารของท่านบำเพ็ญกุศลไว้ สองปีเศษ

     

     

    เเสดงความคิดเห็น

    บทความที่เกี่ยวข้อง

    thumbnail
    พระครูสิทธิสังวร ( หลวงพ่อวีระ ...

    พระครูสิทธิสังวร (หลวงพ่อวีระ ศิษย์ไก่เถื่อน )วิทยฐานะ น.ธ.เอก ป.ว.ช วัดราชสิทธาราม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพ ๑๐๖๐๐

    thumbnail
    พระครูปัญญาวุธคุณ หลวงพ่อสำอางค์

    พระครูปัญญาวุธคุณ มีนามเดิมว่า สำอางค์ เกิดวันพฤหัสบดี แรม ๑ ค่ำ เดือนอ้าย ตรงกับวันที่ ๑๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๖๗ บิดาชื่อนายผัน มารดาชื่อ นางปลื้ม สุขมีทร

    thumbnail
    พระครูญาณสิทธิ หลวงปู่เชื้อ

    พระครูญาณสิทธิ (เชื้อ) มีนามเดิมว่า เชย นามสกุล จันทน์ปราณีต และเปลี่ยนเป็น เชื้อ จันทน์ปราณีต ขณะเมื่อเป็นพระถานานุกรม ของพระสังวรานุวงศ์เถร(ชุ่ม)พระ

    thumbnail
    พระครูสังวรสมาธิวัตร หลวงปู่แป๊ะ

    พระครูสังวรสมาธิวัตร มีนามเดิมว่า แป๊ะ สีเนื้อขาว สันฐานสันทัด ตำหนิใฝ่ ที่ริมฝีปากบนข้างซ้าย อาชีพกสิกรรม บิดาชื่อนายจิ๋ว มารดาชื่อนางฉิม เกิดเมื่อ