หมวดหมู่น่าสนใจ

บทความล่าสุด

  • thumbnail

    ชุดพระเหรียญโชคลาภ ปี2558

    ชุดพระเหรียญโชคลาภ ปี2558, พระโชคลาภปี58, บูชาได้โชค ได้ลาภ ปี2558, วัดพลับ, คณะ5

  • thumbnail

    เหรียญพระสีวลี

    เหรียญพระสีวลี, เหรียญโลหะพระสีวลี, คณะ5 วัดราชสิทธาราม

  • thumbnail

    งานพุทธาภิเษก พระพุทธเมตตา วันที่ 14 ธันวาคม 2557

    งานพุทธาภิเษกพระพุทธเมตตา วันที่ 14 ธันวาคม 2557 ณ.คณะ5วัดราชสิทธาราม โดยพ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ จ.ปัตตานี

  • thumbnail

    งานพุทธาภิเษก เหรียญพระสีวลี คณะ 5 วัดราชสิทธาราม

    งานพุทธาภิเษกเหรียญพระสีวลี วันที่ 29 พฤษจิกายน 2557 ณ.คณะ5วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ)

  • thumbnail

    เลือกของทำบุญอย่างไรให้เหมาะสม

    การทำบุญ เป็นสิ่งที่อยู่คู่คนไทยมานานโดยเฉพาะช่วงเทศกาลต่างๆ เช่น วันพระ วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา แต่รู้หรือไม่ว่าสิ่งที่ทำบุญไปนั้นได้ใช้ประโยชน์มากน

  • พระญาณโกศลเถร หลวงปู่มาก

    thumbnail

    เขียนเมื่อ 2014-09-28 06:09:39

    1198 ครั้ง


    พระญาณโกศลเถร ( หลวงปู่มาก )
     


     

                อดีตพระอาจารย์กรรมฐาน และอดีตรักษาการเจ้าอาวาสพระญาณโกศลเถร มีนามเดิมว่า มาก เกิดเมื่อประมาณปีพระพุทธศักราช๒๒๘๙ สมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ครองกรุงศรีอยุธยา

                   ปีพระพุทธศักราช ๒๓๒๘ บรรพชาอุปสมบท เมื่ออายุได้ ๓๙ ปีเศษ ณ.พัทธสีมา วัดราชสิทธาราม เมื่อวันผูกพัทธสีมา ท่านอุปสมบทเป็นองค์แรกของพระอุโบสถ วัดราชสิทธาราม พระญาณสังวรเถร(สุก) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดชิต (พระพรหมมุนี หรือเจ้าคุณหอไตร) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระสมุห์ฮั่น เปรียญ (พระวินัยรักขิต) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เหตุที่ท่านไม่ได้บรรพชาอุปสมบทมาแต่อายุ ๒๐ นั้น เพราะมีเหตุยุ่งยากกับเหตุการบ้านเมืองครอบครัวท่านพลัดพรากกระจัดกระจายเมื่ออุปสมบทแล้วศึกษาพระกรรมฐานแบบมัชฌิมา แบบลำดับ กับพระญาณสังวรเถร (สุก) และพระพรหมมุนี ครั้งเป็นพระปลัดชิต ศึกษาพระปริยัติธรรมบาลีมูลกัจจายน์ กับพระวินัยรักขิต ครั้งเป็นพระสมุห์ฮั่น ต่อมาได้เที่ยวออกสัญจรจาริกธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆทุกปีมิได้ขาด

                   ปีพระพุทธศักราช ๒๓๖๓ เป็นพระครูพรหมวิหาร พระครูวิปัสสนา ถานานุกรมของ สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) เป็นพระอาจารย์บอกพระกรรมฐานในครั้งนั้นด้วยปีพระพุทธศักราช .๒๓๖๔ เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ ทำสังคายนาพระกรรมฐาน ในรัชสมัยสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ 

                  ปีพระพุทธศักราช ๒๓๖๙ ประมาณกลางปีเป็นพระราชาคณะ ฝ่ายวิปัสสนาธุระที่ พระญาณโกศลเถร พระคณาจารย์เอก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งสมัยเดียวกันกับ พระเทพโมลี (ฉิม) วัดพระเชตุพนฯ ต่อมา ปีพระพุทธศักราช ๒๓๗๕ พระเทพโมลี (ฉิม) ได้รับสถาปนาเป็น พระพุทธโฆษาจารย์ ย้ายไปครองวัดโมลีโลกฯ พระญาณโกศลเถร (มาก) เป็นพระราชาคณะได้ไม่ถึงสองเดือน พระเทพโมลี (กลิ่น) ก็ถึงแก่มรณะภาพลง

                  ปีพระพุทธศักราช ๒๓๖๙ หลังจากพระญาณวิสุทธิเถร (เจ้า)มรณะภาพลงระหว่างรักษาการเจ้าอาวาสวัดราชสิทธารามนั้น พระญาณโกศลเถร (มาก) ได้รักษาการเจ้าอาวาสวัดราชสิทธาราม เป็นองค์ต่อมา และท่านก็ถึงแก่มรณะภาพลง ในระหว่างรักษาการเจ้าอาวาสวัดราชสิทธาราม เมื่อสิริรวมอายุได้ ๘๐ ปีเศษ พรรษา ๔๑ ครั้งนั้นที่วัดราชสิทธารามนี้ ได้ตั้งบำเพ็ญมหากุศลสรีระสังขาร ของอดีตพระมหาเถรผู้ใหญ่ ของวัดราชสิทธารามนี้ถึงเจ็ดพระองค์ พระมหาเถรทั้งเจ็ดพระองค์นี้ ต่างเป็นผู้มีชื่อเสียงผู้คนทั้งหลายนิยม เคารพนับถือมาก หลังจากพระญาณโกศลเถร (มาก) สิ้นแล้ว ทางคณะสงฆ์วัดราชสิทธารามเก็บสรีระสังขารของอดีตมหาเถรทั้งเจ็ดท่านไว้อีกประมาณสามปี

                  ประมาณปีพระพุทธศักราช ๒๓๗๑ จึงพระราชทานเพลิงศพพร้อมกันทั้งเจ็ดองค์ เมื่อถึงคราวออกเมรุ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ พระราชทานโกศ หนึ่งองค์ สำหรับพระพรหมมุนีชิต ตามตำแหน่ง และทรงอุทิศพระราชทานให้ทั้งหกท่านด้วย ในพระโกศใบเดียวกันนี้ โดยนำพระโกศตั้งหน้าหีบทองทึบทั้งเจ็ด เป็นเกียรติยศสำหรับพระมหาเถรทั้งเจ็ดท่าน ทรงพระราชทานเพลิงศพด้วยพระองค์เองทางคณะสงฆ์มี สมเด็จพระสังฆราช (ด่อน) ทรงเป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์ การพระราชทานเพลิงศพครั้งนั้น กล่าวว่า มีผู้คนมาร่วมในงานพระราชทานเพลิงสรีรสังขารพระมหาเถรทั้งเจ็ด ตั้งแต่เย็นจดเที่ยงคืน จึงหมด

                  ปีพระพุทธศักราช ๒๓๗๓ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ทรงสถาปนาพระเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองขนาดใหญ่ เพื่อบรรจุพระอัฏฐิธาตุ และพระอังคาร ของสมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) ส่วนที่คณะสงฆ์เก็บไว้ที่วัดราชสิทธารามพร้อมกันนั้นก็ได้บรรจุอัฏฐิธาตุ และอังคาร ของพระมหาสงฆเถระทั้งเจ็ดองค์ ไว้ในพระเจดีย์องค์เดียวกันนี้ในครั้งนั้นด้วย พระเจดีย์องค์นี้ทรงสถาปนาไว้ทางด้านหน้าพระอุโบสถข้างทิศไต้ พร้อมกันนั้นก็ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ทำการบูรณะวัดราชสิทธารามเป็นการใหญ่ในปีนั้นด้วย ทำการฉลองในปีพระพุทธศักราช ๒๓๗๔ ปรากฏ ในหนังสือประชุมพงศาวดารประกาศ รัชกาลที่ ๔ ภาค ๒๕ ปีพระพุทธศักราช ๒๔๖๕ หน้า ๗๒ ตอนหนึ่งว่า“พระสถูปเจดีย์ทั้งคู่มี พระอัคฆิยเจดีย์ ๔ ทิศเป็นบริวาร ที่หน้าพระอุโบสถวัดราชสิทธาราม พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ พระบรมเชษฐาธิราชทรงสถาปนาไว้ในหมู่ข้างใต้แต่ก่อน ครั้งนี้มีพระราชศรัทธา (หมายถึงรัชกาลที่ ๔) ทรงอุตสาหะปฏิสังขรณ์ ให้วัฒนาถาวรดีกว่าเก่า “

                  ปีพระพุทธศักราช ๒๓๙๗ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ทรงสถาปนาเป็นพระเจดีย์แบบลังกาทรงเครื่อง มีสังวาลย์พาดห้อยประกอบด้วยลวดลาย ปิดทองประดับกระจก คลอบพระเจดีย์แบบย่อมุมไม้สิบสององค์เดิม มีเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองขนาดเล็ก ๔ ทิศ ๔ มุมเป็นบริวาร อันเป็นของพระบาทสมเด็จนั่งเกล้าพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ที่ทรงสถาปนาไว้หน้าพระอุโบสถ ข้างทิศใต้มาแต่ก่อน และพร้อมกันนั้นก็ได้ทรงสถาปนาพระเจดีย์แบบลังกาทรงเครื่องอย่างเดียวกันไว้ ทางหน้าพระอุโบสถข้างทิศเหนือ แล้วพระราชทานนามพระเจดีย์ของสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ เจ้าอยู่หัวว่า พระสิราศนเจดีย์ และพระราชทานขนานพระนามพระสถูปเจดีย์ ด้วยการสถาปนาไว้ด้วยพระองค์เองว่า พระสิรจุมภฏเจดีย์

    เเสดงความคิดเห็น

    บทความที่เกี่ยวข้อง

    thumbnail
    พระครูสิทธิสังวร ( หลวงพ่อวีระ ...

    พระครูสิทธิสังวร (หลวงพ่อวีระ ศิษย์ไก่เถื่อน )วิทยฐานะ น.ธ.เอก ป.ว.ช วัดราชสิทธาราม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพ ๑๐๖๐๐

    thumbnail
    พระครูปัญญาวุธคุณ หลวงพ่อสำอางค์

    พระครูปัญญาวุธคุณ มีนามเดิมว่า สำอางค์ เกิดวันพฤหัสบดี แรม ๑ ค่ำ เดือนอ้าย ตรงกับวันที่ ๑๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๖๗ บิดาชื่อนายผัน มารดาชื่อ นางปลื้ม สุขมีทร

    thumbnail
    พระครูญาณสิทธิ หลวงปู่เชื้อ

    พระครูญาณสิทธิ (เชื้อ) มีนามเดิมว่า เชย นามสกุล จันทน์ปราณีต และเปลี่ยนเป็น เชื้อ จันทน์ปราณีต ขณะเมื่อเป็นพระถานานุกรม ของพระสังวรานุวงศ์เถร(ชุ่ม)พระ

    thumbnail
    พระครูสังวรสมาธิวัตร หลวงปู่แป๊ะ

    พระครูสังวรสมาธิวัตร มีนามเดิมว่า แป๊ะ สีเนื้อขาว สันฐานสันทัด ตำหนิใฝ่ ที่ริมฝีปากบนข้างซ้าย อาชีพกสิกรรม บิดาชื่อนายจิ๋ว มารดาชื่อนางฉิม เกิดเมื่อ